วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ยอดมนุษย์ฟันเหล็ก & super wonder woman (ตอนจบ)

แล้ววันพักผ่อนที่แสนรื่นรมย์ก็ได้สิ้นสุดลง....
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เด็กจะได้เล่นสนุกกัน ก็เลยตื่นกันแต่เช้าลงไปเล่นน้ำทะเล พอสายกะว่าจะออกไปเที่ยวที่บ้านปราณบุรี เพื่อไปทักทายคุณย่า ย่า และย่า (ทั้งหมด 3 ย่าอันได้แก่ คุณย่าหญิง คุณย่างาม และคุณย่าแต๊ว) ก็เป็นอันต้องล้มเลิกอีก เฮ้อออ ช่างเป็นทริปที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง... เหตุที่ต้องล้มก็เนื่องมาจาก ฟ้า และฝน เป็นใจ ตกต้องตามฤดูกาล (หรือเปล่า) ทั้งวี่ทั้งวัน จนไม่ต้องเป็นอันทำอะไร เที่ยงวันนี้ก็เลยได้กิน โรตีแกงไก่ ซึ่งฝีมือโรตีนั้นคุณย่าแต๋วทำมาให้พวกเราไว้กินกัน ส่วนแกงไก่ เราไปซื้อจาก "ร้านครัวกรรณิการ์" คร๊าบพี่น้อง จริงๆแล้วกะว่าจะกินตั้งแต่วันแรก แต่พอแวะไปซื้อทีไร เป็นต้องได้เห็นป้ายหน้าร้าน พร้อมกับประโยคซ้ำๆ ที่เขียนมาแล้ว 2 วันว่า "ของหมดทุกอย่าง..ค้า" และวันนี้ฟ้า-ฝน ก็ปราณีเรา (เล็กน้อย) หรือเพราะเราไหวตัวทันก็ไม่ทราบได้ พ่อเข็มเลยรีบโทรไปสั่งแกงไก่ไว้ให้แม่ตั้งแต่ไก่โห่ (เป็นรอบที่ 500) พอไปรับของ โอ้โห...พี่น้องคร๊าบบบ ร้านเค้าพร้อมเพรียงกันดีจริงๆ พันธมิตรตั้งแต่พ่อครัว ยัน เด็กเสริฟ แถมพกด้วยการขายมือตบพันธมิตร และแจกใบปลิวเรื่อง...ที่เผยแพร่กันทางอินเทอร์เน็ต ด้วยนะคร๊าบพี่น้อง... ขนาดว่าโทรสั่งแล้วยังต้องรอ เพราะเค้าไม่ทำไว้ให้เราเลย เค้าบอกว่า ต้องทำให้ร้อนๆ มาแล้วก็เพิ่งจะเอาลงหม้อให้... แต่ไม่เป็นไร เพราะเราเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเหมือนๆกัน คร๊าบพี่น้องงงงงง
วันนี้ก็ได้แต่ กิน กะ นอน แล้วก็นอน ตื่นขึ้นมากิน อ้อ ตกกลางคืนก็เปิดฟลอร์ให้เด็กๆได้ ร้อง เล่น เต้นกระจายกันไปหลายยก ก่อนตบท้ายด้วยไอติมแสนอร่อย...บัสกินร๊อบบิ้น ซึ่งบรรดาพ่อ แม่ และป้าๆ เรียกกันว่าเป็น "ช่วงเวลาแห่งความสามัคคีปรองดองกันฉันน้องพี่" เนื่องจากว่า เวลาเล่นเด็กๆมักจะทะเลาะ และไล่ตีกันเป็นประจำ และสม่ำเสมอ แต่เมื่อถึงเวลากินไอติมทีไร เกิดความสมานฉันท์ได้ทุกทีเล่า...
ก่อนจะแยกกันย้วยกลับบ้านในวันรุ่งขึ้น .....
เหมือนเดิมอีกแล้วครับท่านผู้อ่าน เด็กๆๆ ก็ยังคงเล่นน้ำกันแต่เช้า ขึ้นจากน้ำ ก็อาบน้ำแต่งตัว กินข้าวเช้า แล้วก็ตีกันเหมือนเคยๆ ส่วนผู้ใหญ่อย่างพ่อ แม่ และป้า ก็ช่วยกันจัดเก็บของกันตามระเบียบ พอเสร็จสิ้นพิธีการ ก็เตรียมพร้อมออกเดินทางกลับ
เราขับรถตามกันไปเพื่อที่จะได้แวะกินอาหารอร่อยๆ แถวๆ เพชรบุรี แล้ววันนี้เป้าหมายของเราก็เป็นผลสำเร็จแม้ว่าจะทุลักทุเลเล็กน้อย เนื่องจากพ่อเข็มสับสนกับเส้นทางเข้าเมืองเพชรบุรี เพื่อหาร้านก๋วยเตี๋ยวที่พ่อเข็มว่าเด็ดดวงจริงๆ คับพี่น้อง แล้วไอ้ที่เด็ดน่ะมันดันขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ (ซึ่งพ่อก็ลืมไปเสียสนิท) และบรรดาป้าๆ เค้าก็ไม่ทานเนื้อกัน โชคยังดีที่ร้านใกล้เรือนเคียงเค้าให้ขายก๋วยเตี๋ยวหมู และให้สั่งเนื้อมาทานได้ ทุกคนก็เลยได้สบายท้องกันไป เมื่อกองทัพของเราพุงกางกันไปเรียบร้อยแล้ว กิจกรรมที่จะช่วยลดสัดส่วนที่ดีที่สุดก็คือการไปขึ้นเขาวัง พอถึงที่ปรากฏว่าไม่มีใครขึ้นไปกับเราเลยสักคน มีเพียงแค่ พ่อ แม่ พี่โอเปิ้ล และพี่ข้าวตู ที่ยังร่วมกันสานฝันต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ...เราทั้ง 4 คน ก็เลยนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขาวัง เพื่อกินลม ชมลิง และสถานที่สำคัญอีกสักพัก ก็นั่งรถกระเช้าไฟฟ้ากลับลงมา และทั้งหมดก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความปลอดภัย



ยอดมนุษย์ฟันเหล็ก & super wonder woman (ตอน 2)

วันแรกที่แสนทรหดได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทุกคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี แม่และป้าตุ๊กขับรถออกจากบ้าน กะเวลาว่าเด็กๆ น่าจะยังเพลินอยู่กับการเล่นทราย พอขึ้นจากน้ำอาบน้ำ อาบท่า ก็คงหิวพอดี ก็เลยแอบแว๊บบบบ ออกมาซื้ออาหารให้ลูกๆ และหลานๆกินกันก่อน เป้าหมายที่เราเล็งๆกันไว้คือ "ข้าวต้มเจ๊แมว" ร้านข้าวต้มที่เก่าแก่ของหัวหิน แม่ว่าอร่อยพอๆกับข้าวต้มอ่างศิลาที่เลื่องชื่อเลยที่เดียว แต่พอขับออกมาได้นิดเดียว โครงการพันล้านของเราเป็นอันต้องพับไป เนื่องจากจราจรติดขัด เหมือนกับเกิดจราจลขึ้นที่ไหนสักแห่ง...หรือว่าจะมีดาวกระจาย กลุ่มเล็ก กลุ่มน้อยมารวมตัวกันที่หัวหินแห่งนี้ ....แป่วววว
แล้วเราก็ต้องคิดแผนการใหม่ ซื้ออาหารง่ายๆ แถวๆ หัวหินแกรนด์ ตลาดนัดใกล้ๆบ้าน อาหารสะอาด และหลากหลาย แม่กะป้าตุ๊ก เพลิดเพลินกับการจับจ่ายอาหารไปให้กับทุกคนกิน แต่เพลินมากไปหน่อย พอมาดูนาฬิกาอีกที่ก็ปาเข้าไปเกือบ 2 ทุ่ม ตาย...แล้ว ป่านนี้ทุกคนคงรอกันไส้แห้งแล้ว.... จึงรีบขนเสบียงขึ้นรถ และบึ่งกลับบ้านทันที



วันที่ 2 ของพักผ่อน...

เด็กๆ ก็ยังคงเพลิดเพลินกับการลงเล่นน้ำตั้งแต่เช้า พอบ่ายเราก็ออกตระเวณหาอาหารกินกัน เป้าหมายสำหรับวันนี้คือ "ก๋วยเตี๋ยวนายหอย" ที่ลือชื่ออีกเช่นกัน ปรากฏว่าพอไปถึง คนมากินกันเยอะมากจนไม่มีที่นั่งทาน โครงการเราก็เลยต้องพับไปอีก 1 ยก เลยต้องเปลี่ยนโปรแกรมไปกินข้าวซอยร้านเล็ก แต่อร่อยไม่แพ้ทางเหนือเลยกะเจ้า จำชื่อร้านไม่ได้แต่อยู่ตรงข้ามกับวังไกลกังวล ร้านเล็กๆ แต่คนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมากินไม่ได้ขาด น้ำเค้าเข้มข้นได้ใจจริงๆ มีทั้งข้าวซอย น้ำเงี้ยว ก๋วยเตี๋ยวหมู/เนื้อตุ๋น แล้วก็อาหารทางเหนือที่กินกับข้าวได้ กินกันเสร็จไปออกตระเวณพาเด็กๆ ไปดูรถไฟที่สถานีรถไฟหัวหินต่อ ราวกับว่าอยู่กรุงเทพฯไม่เคยได้เห็นรถไฟซะงั้น....ถ่ายรูปกันไปก็เยอะ คนรอขึ้นรถไฟก็แยะ งานนี้เด็กที่ดูจะทรหด และอดทนที่สุด เห็นจะเป็น "น้องออสติน" เพราะแม่เอาหนูลงเป้ แบกไปไหนต่อไหนทั้งวัน ทั้งแดดร้อน แดดร่ม ฝนตก หนูก็ไม่ร้องซักแอะเดียว จนบรรดาป้าๆ ถามแม่ว่า "เฮ้ย..เอ็งลืมเอาลูกไว้ที่บ้านหรือเปล่าวะ" ซะงั้น แหม! เกิดเป็นลูกแม่ต้องอดทนนี่หน่า งานนี้ก็เลยแอบตั้งสมญานามให้น้องออสตินว่า "สาวน้อยจอมพลัง (บักอึด)" หรือ wonder little women นั่นเอง




วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ยอดมนุษย์ฟันเหล็ก & super wonder woman

ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาพ่อกับแม่ พาพี่โอเปิ้ลกะน้องออสติน ไปเที่ยวหัวหินกะพี่ข้างตู น้องฟ้า น้องฝน และ บรรดาป้าๆ มันช่างเป็นวันพักผ่อนที่สนุกสนาน และ ทรมาณที่สุดที่แม่เคยผ่านมา เฮ้ออออออออ... เหนื่อย

วันแรกของการเดินทาง

โอเปิ้ลมีนัดกับคุณหมอฟันที่โรงพยาบาลก่อน คุณหมอจะตรวจฟันและทำการอุดฟันให้กับโอเปิ้ล คุณหมอตรวจพบว่า ฟันหน้าของโอเปิ้ลด้านในผุมาก หากทำการอุดธรรมดา ก็เกรงว่าจะต้องมาอุดใหม่อีกครั้ง สาเหตุที่ทำให้ฟันของโอเปิ้ลผุ ก็เนื่องมาจากการชอบอมข้าวแล้วเอามาจุกไว้ที่ด้านหน้านั่นเอง แถมพกด้วยการชอบทานชอคโกแล็ตเป็นชีวิตจิตใจ ก็เลยซ้ำเติมให้เจ้าแมงกินฟันเข้าไปสร้างบ้านอยู่ในฟันของโอเปิ้ลได้สำเร็จ...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขณะที่คุณหมอทำฟันให้โอเปิ้ลอยู่นั้น พ่อกับแม่รอโอเปิ้ลอยู่หน้าห้องทำฟัน ได้ยินเสียงโอเปิ้ลร้องไห้โฮ..ใหญ่ มันคงทรมาณมากๆ เพราะนอกจากจะ
โดนฉีดยาชาที่เหงือก แล้วยังต้องโดนกรอฟัน และอื่นๆ อีกมากมาย ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าหวาดเสียว และทรมาณมาก แล้วในที่สุดเวลาแห่งความทรมาณก็ได้สิ้นสุดลง เมื่อโอเปิ้ลเดินออกมาจากห้องคุณหมอ ด้วยน้ำตาที่นองหน้า และเสียงสะอีก สะอื้น ในขณะที่ในมือก็ถือลูกโป่งที่คุณหมอให้มาด้วย.. แม่แอบได้ยินคุณหมอถามโอเปิ้ลว่าจะเอาลูกโป่งแบบไหน แล้วก็ได้ยินโอเปิ้ลตอบคุณหมอว่า "ไม่เอาลูกโป่งน่ะ จะเอาที่เป็นดาบคร๊าบบบ ฮือ ฮือ ฮือ" (แบบว่าร้องไป อยากได้ลูกโป่งไปง่ะ)

แว๊บแรกที่พ่อเห็นโอเปิ้ล...พ่อน่ารักม๊ากกกก... แอบหัวเราะโอเปิ้ลยกใหญ่ (โดยไม่ให้ลูกรู้ว่าหัวเราะในความตลกของฟันลูกอยู่) ส่วนแม่..ก็ต้องอดกลั้น (แทบแย่) แล้วก็ต้องให้กำลังใจลูกว่า "โอ้โห..นอกจากจะเก่งแล้ว โอเปิ้ลทำฟันเสร็จแล้ว หล่อมากกกกก เลยครับลูก" และแล้วก็ได้เวลาที่เราจะต้องออกเดินทางไปหัวหินกันซะที...หลังจากที่ใช้เวลานานมาก..มาก กับการทำฟันโอเปิ้ล เก็บของสัมภารก และจัดขึ้นรถ และสุดท้ายจัดการเรื่องอาหารของลูกๆ...
เวลา 11:00 น. รถสตาร์ท...ล้อรถเริ่มหมุน...เราขับออกจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางพุทธมณฑลสาย 4 มุ่งหน้าออกไปทางมหาชัยเมืองใหม่ ข้ามแม่น้ำท่าจีน แวะปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดนัดหมายกับ ป้าตุ๊ก และ ป้าเปิ้ล เมื่อทุกคนได้เจอหน้า และทักทายกันเรียบร้อย ก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหัวหิน จุดหมายปลายทางคือ "
บ้านราชดำเนิน" รีสอร์ทสุดหรูระดับแนวหน้าของ... (ไม่กล้าพูด..อายปากจิง จิง)

เราทุกคนมาถึง "
บ้านราชดำเนิน" กันในเวลาเกือบๆ จะ 4 โมงเย็นแล้ว ได้พักให้หายเหนื่อยซักพักเด็กก็ลั้น.. ลา พากันวิ่งเล่นกันสนุกสนาน เผลอแผล็บเดียว หายกันไปเล่นทะเลหมดแล้วเหลือแต่แม่กับพ่อ ที่ยังนั่งซ่อมกระดิ่งจักรยานให้กะโอเปิ้ล...(เกิดอาการ กระดิ่ง
แยกชิ้นส่วนออกจากตัวรถ ซะงั้น)


วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

มือใหม่หัดเขียน

วันนี้ได้คุยกะน้องที่เคยทำงานด้วยกัน เค้าแนะนำให้แม่ลองเขียนบล็อคดู บอกว่าไม่ยาก แม่ก็เลยได้แรงบันดาลใจ..อย่างแรง เห็นเค้าว่ากันว่ามันฮิตกันนัก ฮิตกันหนา แล้วในที่สุดความฝันของแม่ก็เป็นจริง ต่อจากนี้ไปแม่จะได้บันทึกเรื่องราวของพี่โอเปิ้ล และ น้องออสติน เก็บเอาไว้ ถ้ามีโอกาสลูกๆคงได้อ่านกันนะ

เริ่มจากเรื่องราวของพี่โอเปิ้ล ซึ่งผ่านมาแล้ว 3 ปี... นานมากๆๆ แล้ว

โอเปิ้ลเกิดวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2548 ตอนนี้พี่โอเปิ้ลอายุได้ 3 ขวบแล้วคร๊าบ แล้วก็เข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว อยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ เป็น Preschool ที่มีชื่อว่า "ศูนย์สุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์" อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลรามานั่นเอง
นับจากวันแรกที่เริ่มไปเรียนประมาณเดือนมิถุนายน ซึ่งก็ผ่านมาแล้วเกือบๆ 4 เดือน ไม่มีวันไหนที่โอเปิ้ลจะไม่ร้องไห้ และแล้ววันที่แม่ใฝ่ฝันก็มาถึง เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา โอเปิ้ลลันล้ามากกก เวลาไปโรงเรียน และไม่ร้องไห้อีกต่อไป (กว่าจะหยุดร้องได้ เล่นเอาแม่ กะ คุณครูเหนื่อยไปตามๆกัน) โอเปิ้ลบอกว่า "แม่.. โอเปิ้ลโตแล้ว โอเปิ้ลไม่ร้องไห้แล้ว แม่พาโอเปิ้ลขึ้นรถไฟได้แล้วน๊า" (ลากเสียงยาวๆด้วยนะ)

โอ้แม่เจ้า..ลูกเรามีข้อแลกเปลี่ยนซะแล้ว แต่ก็เอาเถอะ..สัญญาต้องเป็นสัญญา แล้วแม่จะพาไปน๊า


แล้วก็มาถึงทีของ น้องออสติน กันบ้าง

น้องออสตินเกิดวันพุธที่ 4 มิถุนายน 2551 ตอนนี้น้องอายุได้ 4 เดือนแล้ว ออสตินคว่ำ และคอตั้งชันได้แล้ว ออสตินจะชอบมากเวลาที่ใครๆ เรียกเธอว่า "คนสวย" ได้ยินทีไรก็จะยิ้มมม ทุ๊กที ตอนนี้ออสตินชอบชมนกชมไม้มาก ไม่ยอมจะนอน อยากแต่จะนั่งท่าเดียว บางทีก็ใช้มือเหนี่ยวมือแม่ไว้ เพื่อที่จะยกตัวเองให้ลุกขึ้นยืน.. ท่าทางออสตินจะออกอาการอยากเดิน (ช้อปปิ้ง) ตั้งแต่เด็ก