วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

หนีไปเที่ยวที่สามพราน

อิอิ..วันนี้พ่อ แม่ และพี่โอเปิ้ล แอบหนีน้องออสตินไปเที่ยวมาล่ะ ตอนแรกก็ว่าจะไปรับพัสดุที่ไปรษณีย์สำเหร่ แต่คิดไปคิดมาวันนี้พ่อว่างพอดี ไม่ต้องเข้าไปคุยงานกับอากบที่ ราชดำเนิน sport complex เราก็เลยหาเรื่องหนีเที่ยวกัน ตอนแรกแม่ก็เสนอว่าจะไปทานก๋วยเตี๋ยวฟรีที่บ้านลุงตั้ม โดยจะพาพี่โอเปิ้ลนั่งเรือไป แต่พ่อก็ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของแม่ เอาเป็นไปถ่ายรูปพระเมรุที่สนามหลวงกันดีกว่ามั๊ยพ่อ... ไม่เอาอีกล่ะ...โอ๊ย..เบื่อแล้วไม่คิดมันแล้วล่ะ...งอนนนน

แล้วพ่อก็คิดเอง เออเองว่า เราไปเที่ยวสวนสามพรานกันดีกว่า กะว่าออกจากไปรษณีย์สำเหร่จะไปรับน้องออสตินมาเที่ยวด้วย แต่แม่ว่าน่าจะไม่ดีเพราะวัน สอง วันนี้ น้องออสตินมีน้ำมูกอยู่ ไม่อยากให้ออกมาตากแดด ตากลม นอกบ้าน...ถ้างั้นก็ตากแห้งอยู่กะบ้านไปก่อนแล้วกันนะจ๊ะ...คนนนน สวยยยยย

พ่อขับรถไปถึงที่สวนสามพรานราวๆ เที่ยงกว่าๆ ระหว่างเดินทางแม่ก็พยายามบังคับให้พี่โอเปิ้ลนอนหลับในรถให้ได้ ไม่เช่นนั้นพี่โอเปิ้ลจะออกอาการเด็กแว๊นนน แปร๋น แปร๋น เวลาง่วงนอนทุ๊กที แล้วความพยายามของแม่ก็เป็นผลพี่โอเปิ้ลหลับไปตลอดทางจนถึงที่หมายพี่โอเปิ้ลก็ตื่นขึ้นมาโดยมิได้นัดหมาย...

พ่อขับรถวนก่อน 1 รอบเพื่อสำรวจว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วก็ตัดสินใจจอดรถ เพื่อเดินมาทานอาหารกลางวันกันก่อนเป็นอันดับแรก...แล้วเราก็ไม่ได้คาดฝันมาก่อนว่า เราจะได้เจอน้าจุ๊ น้าพจน์ และคุณตา คุณยาย (พ่อ และแม่ของน้าจุ๊) ที่นั่น เราทักทายบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหายกันพอหอมปากหอมคอ ก็แยกย้ายกันไปย้วยยย เอ๊ยย ไม่ช่ายย แยกกันไปเที่ยวตามที่แต่ละครอบครัวจะปรารถนา แต่เนื่องจากว่ากองทัพของครอบครัวเราต้องเดินด้วยท้อง เราก็เลยสั่งอาหารกลางวันรับประทานกันก่อนที่จะเดินเที่ยวกันเป็นรายการต่อไป
พอทานอาหารเสร็จ เราก็ไปเดินชมตลาดริมน้ำที่เค้าจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทย(ส่วนน้อย) ได้ชมบรรยากาศ และวิถีชีวิตของคนไทยที่อาศัยอยู่ริมน้ำ นอกจากจะมีการขายอาหาร และขนมไทยๆ แล้ว ยังมีหัตถกรรมพื้นบ้านของไทยอีกหลากหลายด้วย ออกจากตลาดริมน้ำ เราก็ตกลงกันว่าจะพาพี่โอเปิ้ลไปขี่ช้าง จับตั๊กแตนกันสักหน่อย... แต่แล้วเราก็ชวด ฉลู ขาล และเถาะ หรือเรียกสั้นๆว่า "แห้วรับประทาน" เนื่องจากช้างที่มีอยู่นั้นจะต้องนำไปแสดงให้ชาวต่างชาติชม (ราคาค่าเข้าชม 480 บาทต่อท่าน) หากต้องการขี่เพื่อถ่ายภาพ (สนนราคาท่านละ 50 บาท) ก็ต้องรอไปอีกประมาณ 45 นาที เราก็เลยตัดสินใจไม่ขี่มันแล้วล่ะช้างน่ะ ไปขี่จักรยานน้ำ หรือ เรือถีบ ภาษาบ้านๆเราก็ได้ (วะ) ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ครึ่งชั่งโมง 40 บาท เท่านั้นเอง จิ๊บ จิ๊บบบ


เสร็จจากการถีบ..เรือ ก็ออกรถไปจอดแถวสนามเด็กเล่นซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกไม่มากนัก แต่ที่ต้องนั่งรถไปเพราะแม่น่องโป่งไปเรียบร้อยแล้วน่ะซิ เหนื่อยมั่ก มากกก ก็สนุกสนานกันไปสักพัก เมฆฝนก็ครึ้มมม มาแต่ไกล ทำให้เราได้ฤกษ์กลับบ้านกันซะที...แต่กว่าจะถึงบ้านได้ เราก็แวะช้อปปิ้งกันอีก 1 ยกที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เฮ้อ..วันนี้ทั้งวัน พี่โอเปิ้ลก็เลยได้เพลิดเพลินไปกับการเที่ยว เที่ยว และเที่ยว จนฉ่ำปอดกันไปเลยทีเดียวครับ..เจ้านาย















1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ19/11/51 04:03

    ขอให้แข็งแรงและมีความสุขมากๆกันทั้งครอบครัวนะค๊า พี่เชอร์รี่..หญิงจิ๋ว อิอิ

    ตอบลบ